ความรู้สึกดีๆ


แด่หนุ่มชื่อติ๊ก  จากเมืองตรัง  ที่ตะวันนา

ปกติจะไม่ยอมมองอะไรร้ายๆ
คิดอยู่เสมอว่า มุมมองดีๆสบายๆ  ทำให้โลกนี้น่าอยู่
แล้ววันนั้นก็เป็นอีกวันหนึ่งที่มีอะไรดีๆ....
ที่ทำให้ชีวิตสดสวย ...ใสขึ้น.....

วันนั้น จำได้ดี เป็นวันที่ 13 พฤษภาคม  2545
วันที่ต้องทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสมบูรณ์  เพื่อส่งในวันรุ่งขึ้น
วันที่เครื่องคอมพิวเตอร์เสีย  ต้องส่งฮาร์ดดิสเข้าร้านซ่อม
วันที่รถเข้าอู่ ...ซ่อมเกียร์
วันที่ต้องไปไหนมาไหนด้วยรถประจำทาง
วันที่ทั้งหอบ  หิ้ว และ สะพายสัมภาระไปประชุมถึงสาธร
วันที่เหน็ดเหนื่อย   เครียด  ว้าวุ่น (วาย) ไปซะทุกสิ่งทุกอย่าง
วันนั้น ช่างเอน็จอนาถ เสียจริงๆ ........เลยทีเดียวเชียว

เดินทางจากสาธรมาบางกะปิโดยรถประจำทางใช้เวลา 2.40 ชั่วโมง
ไม่เป็นไร... ดีแล้ว ได้นอนหลับพักแรงมาในรถประจำทาง
ออมแรงไว้ตะลุยงานตอนกลางคืนได้
มาถึงตะวันนาเกือบสองทุ่ม  เพื่อรับฮาร์ดดิสที่สั่งซ่อม
จากร้านซ่อมเครื่องคอมฯ ที่ตะวันนา
ต้องหอบ หิ้ว และสะพายของ (ที่ขนมาจากที่ประชุม).... กลับบ้าน
แน่นอน  คราวนี้ต้องพึ่งแท๊กซี่

ตอนที่จะไปขึ้นแท๊กซี่  อีรุงตุงนังไปหมด ..... เฮ้อ!
อุ้มกล่องฮาร์ดดิส  สะพายกระเป๋า  หิ้วกระเป๋าเอกสารการประชุม
จากตึกตะวันนา เดินออกมาเรียกรถที่ถนน  ไม่ไกลซักเท่าไหร่
เราทำได้น่า  (ไม่ต้องรอให้ใครช่วย  คนยุคนี้ไม่มีใครช่วยใครอยู่แล้ว)

แต่......ทันใดนั้น  กระเป๋าเอกสารร่วงพรู  เอกสารออกมากองเต็มพื้น
ขวางทางคนเดินผ่านไปผ่านมา  เกะกะซะไม่มี
แน่นอน  ก็ต้องเก็บก่อน  ค่อยๆเก็บ  ค่อยๆเรียงสัมภาระใหม่.... เฮ้อ !

และแล้ว........โดยไม่คาดคิด
มีคนดีคนหนึ่ง  เข้ามาข้างๆ  บอกว่า  ผมช่วยนะ
เขาช่วยเก็บเอกสาร  ช่วยอุ้มฮาร์ดดิส

ทำไมจะไม่ดีใจ  มีคนดีมาช่วย .... และไม่ใช่เท่านั้น
เขาพาข้ามถนนไปเรียกแท๊กซี่ที่ฝั่งแฮปปี้แลนด์
จัดของใส่รถให้เสร็จสรรพ
ตอนนั้นถามรายละเอียดคนดี ได้แค่
"ชื่อติ๊กครับ  เพิ่งมาจากตรัง"
จะตอบแทนไงหนอ ที่มากกว่าคำว่าขอบคุณ
หนุ่มน้อยปิดประตูรถให้
แล้วอ้อมหน้ารถจะข้ามถนนจากไปยังฝั่งเดิม
ทำได้มากที่สุดเพียงรีบไขกระจกรถ
ตะโกนออกไปว่าอีกครั้งว่า  ขอบคุณมากๆนะ  ขอบคุณจริงๆ
ติ๊กคงรู้ดีว่าซาบซึ้งจริงๆ เขายิ้ม พยักหน้า
แล้ววิ่งข้ามถนนกลับไปฝั่งตะวันนา

คิดเอาเองว่า  เขาคงสุขใจที่ได้ช่วยเหลือคน
กะแค่ช่วยผู้หญิงยกของข้ามถนน
ไม่มากมาย สำหรับหนุ่มน้อยอย่างติ๊ก
แต่มีคุณค่าเหลือเกินสำหรับคนยุครนรานในกรุงเทพมหานครตอนนี้
มีค่าอันประมาณไม่ได้ที่ทำให้คนเราเกิดความรู้สึกดีๆ ....
มีพลังใจ ที่จะทำอะไรๆดีๆในชีวิตสืบต่อไปได้อีก
ความรู้สึกดีๆนี้  น่าจะทำให้ผู้รับและผู้ให้มีความสุข สบายใจ
ผู้ให้สุขใจที่ได้ให้
ผู้รับมีความสุขใจที่ได้รับ
ทั้งผู้ให้และผู้รับมีความรู้สึกที่ดี

ความรู้สึกดีๆนี้
เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะเก็บไว้
ถึงกาลเวลาเลยผ่าน  บางสิ่งบางอย่างอาจเปลี่ยนไป
แต่ความรู้สึกดีๆที่จำได้.......จะไม่เปลี่ยน
คงเป็นกำลังใจได้เสมอ.

ขอบคุณจริงๆจ้ะ ติ๊กจากเมืองตรัง ที่ตะวันนา.


พรรณี ชุติวัฒนธาดา
15 พฤษภาคม 2545.