รู้อย่างไร เก่งอย่างไร จึงจะดีที่ประเทศฝรั่งเศส มีบุคคลจำนวนหนึ่งมีความสำคัญต่อบริษัทมาก
และมีความรู้จริงในเรื่องหนึ่งคือการชิมเหล้าองุ่น
เขาไม่ต้องใช้หลักฐานแสดงความสามารถ
เพราะความสามารถของเขา คือ ผลงานจากการชิมรสเหล้าองุ่นเขาจิบเหล้าองุ่นแล้วรายงานให้บริษัทผู้จ้างรู้ได้ว่า
เหล้าองุ่นที่หมักเอาไว้นั้นมาจากไร่ไหน ถ้าพวกเขาชิมเหล้า
แล้วบอกว่า รสไม่ดี ไม่เหมือนของเก่าปีก่อนๆ
บริษัทต้องรีบแก้ไขทันที เพราะเขารู้รสของเหล้าองุ่นแต่ละปี
และสามารถปรับแต่งรสเหล้าองุ่นชนิดต่างๆ
ให้มีรสกลมกล่อมเท่ากันทุกปีได้ความสามารถนี้ เกิดจากการเรียนรู้ในการชิมรสเหล้าองุ่น
อย่างช่ำชองและเชี่ยวชาญของบุคคลเหล่านั้น
ดุจเดียวกับที่พระยาศรีสุนทรโวหารกล่าวไว้ว่า
"อันความรู้รู้กระจ่างเพียงอย่างเดียว
ขอให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผล" นั่นเองและ...
ครั้งหนึ่งในรัฐบาลสยามประเทศ มีคนไทยคนหนึ่ง
เก่งภาษาอังกฤษมาก แม้คนอังกฤษที่มีความรู้ดีๆบางคน
ยังสู้ท่านไม่ได้ ท่านผู้นี้คือ พระยาไมตรีวิรัชกฤตย์ (พุ่ม บุนนาค)
เมื่อครั้งที่ท่านรับราชการอยู่ที่กระทรวงต่างประเทศ
ได้เขียนจดหมายราชการส่งไปยังสำนักงานสันนิบาติแห่งชาติ
เจ้าหน้าที่ชั้นสูงที่นั่นต่างก็กล่าวกันว่า "รัฐบาลสยาม
จ้างคนอังกฤษที่แต่งภาษาอังกฤษดีที่สุดไว้ใช้"พระยาไมตรีวิรัชกฤตย์ไม่เคยไปเรียนเมืองนอกและไม่เคย
ศึกษาในขั้นมหาวิทยาลัย ทำไมท่านจึงมีความสามารถ
ถึงเพียงนี้ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลย เพียงแต่ท่านฝึกฝน
เล่าเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเองอย่างสมำ่เสมอและ
เอาใจใส่ตลอดเวลาเมื่อเราพบเห็นคนเก่งทางใดทางหนึ่ง เรามักนึกว่า
เขามีพรสวรรค์ มีอะไรพิเศษเหนือคนธรรมดา
ที่จริงแล้ว คนเก่งไม่ได้มีอะไรพิเศษเกินคนอื่นเลย
นอกจากความตั้งอกตั้งใจ ความใส่ใจ
ความมุ่งมั่นและความขยันคิดให้ดี........
ถ้าเรามีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ให้เท่าเขาคนรู้ (จริง) คนเก่ง (จริง) เหล่านั้น
เราจะเป็นคนมีความรู้ เป็นคนเก่งได้เท่าเขาไหม
1 มิถุนายน 2545